ธปท 3 มาตรการผ่อนเกณฑ์สินเชื่อลูกหนี้รายย่อย

ธปท 3 มาตรการผ่อนเกณฑ์สินเชื่อลูกหนี้รายย่อย

#ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออก 3 มาตรการผ่อนเกณฑ์สินเชื่อลูกหนี้รายย่อย ในส่วนสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ และสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อบรรเทาภาระการจ่ายหนี้และเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้เป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนถึง 31 ธันวาคม 2565 มาตรการประกอบด้วย

แบงก์ชาติจับมือสมาคมธนาคารไทย🤝เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ตามมาตรการเพิ่มเติมที่มีผลบังคับใช้แล้ว ในการรักษาสภาพคล่องและเติมเงินใหม่ให้กับลูกหนี้ SMEs และลูกหนี้รายย่อย รวมถึงมาตรการสนับสนุนการแก้ไขหนี้เดิมอย่างยั่งยืน
.

🔹มาตรการรักษาสภาพคล่องและเติมเงินใหม่ให้กับลูกหนี้ SMEs และรายย่อย
 
เพื่อให้สามารถหล่อเลี้ยงธุรกิจและเพียงพอต่อการดำรงชีวิต ได้แก่

1️⃣การปรับปรุงหลักเกณฑ์สินเชื่อฟื้นฟูสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อกว่าคาดและยังมีความไม่แน่นอนสูง เพื่อช่วยให้บางกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟู มีโอกาสได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น ได้แก่
1.1) ขยายวงเงินสินเชื่อให้แก่ SMEs ที่เดิมมีวงเงินสินเชื่อเดิมต่ำ หรือไม่มีวงเงินกับสถาบันการเงิน เพราะใช้เงินทุนส่วนตัวหรือรายได้ของบริษัทในการประกอบธุรกิจเป็นหลัก
1.2) เพิ่มการค้ำประกันและปรับลดค่าธรรมเนียมการค้ำประกันให้กับลูกหนี้กลุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็น micro-SMEs และภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบรุนแรง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและภาคบริการ เพื่อเอื้อให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อแก่ลูกหนี้กลุ่มเปราะบางได้มากขึ้น
ทั้งนี้ สถาบันการเงินสามารถยื่นคำขอสินเชื่อฟื้นฟูมายังแบงก์ชาติตามหลักเกณฑ์ข้างต้นได้ 🗓ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2564

 


การผ่อนปรนหลักเกณฑ์เกี่ยวกับสินเชื่อลูกหนี้รายย่อยเป็นการชั่วคราว ในส่วนของบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ และสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เพื่อลดภาระการจ่ายชำระหนี้ ตลอดจนเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้ที่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564 จนถึงสิ้นปี 2565 โดย

 

3 มาตรการผ่อนเกณฑ์สินเชื่อลูกหนี้รายย่อย

1.ขยายเพดานวงเงินบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล

กลุ่มผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท เป็น 2 เท่าของรายได้ จากเดิม 1.5 เท่า และไม่จำกัดจำนวนผู้ปล่อยสินเชื่อ จากเดิมไม่เกิน 3 ราย

2.คงอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิต 5% ต่อ อีก1 ปี ไปจนสิ้นปี 2565    จากเดิม ต้องปรับเพิ่มเป็น 8%

3.ขยายเพดานวงเงิน สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล เป็น 40,000 บาทต่อราย (จากเดิม 20,000 บาทต่อราย) และขยายเวลาการชำระคืนจากเดิมไม่เกิน 6 เดือน เป็น 12 เดือน

 

มาตรการแก้ไขหนี้เดิมอย่างยั่งยืน เพื่อให้สถาบันการเงินช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบด้วยการปรับโครงสร้างหนี้แบบระยะยาวอย่างตรงจุดและเหมาะสมกับปัญหาของลูกหนี้แต่ละราย โดยกำหนดการจ่ายหนี้ ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลงมากของลูกหนี้ และทยอยจ่ายเพิ่มขึ้นเมื่อรายได้เริ่มกลับมา รวมทั้งต้องเร่งช่วยลูกหนี้ ให้ได้จำนวนมากและเร็ว โดยแบงก์ชาติได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันเงินสำรองที่เกี่ยวข้องตามความเข้มข้นของความช่วยเหลือ เพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างหนี้ข้างต้น ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน 2564

 

 

Money Banner

พื้นที่ โฆษณา