วิธีวางพล็อตนิยาย ด้วย Three act Structure
วิธีวางพล็อตนิยาย หรือ การวางโครงเรื่องในการเขียนนิยายเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้เรื่องราวมีความน่าสนใจและยืนยาวในหัวของผู้อ่านได้ดี นี่คือเทคนิคในการวางโครงเรื่องนิยายที่อาจมีประโยชน์:
วิธีวางพล็อตนิยาย
1. ข้อคิดหลัก (Concept) และธีม (Theme): ต้องกำหนดข้อคิดหลักของนิยายและธีมหลักที่คุณต้องการสื่อถึงในเรื่อง เช่น ความรักและเสียดาย, การผจญภัย, การเติบโต, หรือความขัดแย้ง
ข้อที่ 1 คือ "ข้อคิดหลัก (Concept) และธีม (Theme)"
เมื่อเริ่มต้นการเขียนนิยาย ควรมีข้อคิดหลัก (Concept) หรือแนวคิดหลักที่นำไปสู่เรื่องราว นั่นคือเรื่องราวหรือสิ่งที่คุณต้องการเล่าให้กับผู้อ่าน อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในภูมิภาคที่แตกต่างกัน มหาวิทยาลัยนักเรียนสมัยใหม่หรือยุคที่ไม่นานมานี้ เรื่องราวที่มีการดำเนินเรื่องและความตึงเครียดที่น่าตื่นเต้น
ธีม (Theme)
คือประเด็นหรือหัวข้อที่คุณต้องการสื่อถึงในเรื่องราว มักเป็นความคิดหรือค่านิยมที่ถูกซ่อนอยู่ในเนื้อหาของเรื่อง มันสามารถเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและการสูญเสีย ความเปลี่ยนแปลงและการเติบโต หรือแม้กระทั่งความสำคัญของความเชื่อในชีวิตหรือความท้าทายในการดำเนินชีวิต
การมีข้อคิดหลักและธีมที่ชัดเจนช่วยให้นักเขียนมีแนวทางในการเลือกเนื้อหาและความเกี่ยวข้องในตอนต่อไป นอกจากนี้ยังช่วยให้นักเขียนมีความมั่นใจในการนำเสนอเรื่องราวของตนเองให้กับผู้อ่านอย่างน่าสนใจและน่าติดตาม
2. ตัวละคร (Characters): สร้างตัวละครที่น่าสนใจและซับซ้อนขึ้น มีต้นกำเนิดที่ชัดเจน และมีความพัฒนาที่น่าสังเกตเพื่อดึงดูดผู้อ่าน
3. ช่วงเวลาและสถานที่ (Setting): กำหนดเวลาและสถานที่ในการตั้งค่าเรื่องราวให้เป็นที่น่าสนใจ และสอดคล้องกับเรื่องราว
4. โครงเรื่องหลัก (Plot): วางโครงเรื่องหลักของนิยายโดยมีการกำหนดเหตุการณ์ที่น่าสนใจที่ทำให้เรื่องเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ซึ่งสามารถสร้างความตึงเครียดและความร่วมเรื่องได้
5. จุดหัน (Climax) และการสรุป (Resolution): ต้องมีจุดหันที่น่าตื่นเต้นขึ้นเพื่อก่อให้เกิดความสัมพันธ์กับผู้อ่าน และการสรุปเนื้อเรื่องที่น่านับถือในท้ายนิยาย
6. ความเชื่อมโยง (Pacing): ควบคู่ความเร่งด่วนและความช้าเพื่อสร้างความสนใจให้กับเรื่องราว ไม่ควรมีส่วนในเรื่องที่ยืดเยื้อเกินไป
7. การใช้ภาษา: ให้คำโดยสารอย่างมีความหมายและน่าสนุกสนาน เลือกใช้คำที่เหมาะสมในการสร้างภาพในใจผู้อ่าน
ในการเขียนนิยาย ควรใช้การบอกเล่าที่มุ่งเน้นเรื่องให้เป็นเรื่องสำคัญ เลือกใช้รายละเอียดที่มีความสำคัญและที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวหลัก ไม่ควรบอกเล่าเรื่องราวรอบคอบหรือเบื้องหลังที่ไม่จำเป็น
8. การสร้างความสนใจในตอนแรก (Hook): เริ่มต้นนิยายด้วยสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเพื่อดึงดูดผู้อ่านให้ติดตามต่อ
9. ความสมดุล (Balance): ให้ความสมดุลในด้านต่างๆ เช่น การอธิบาย, การแสดงออกของตัวละคร, การกระทำของตัวละคร, และบทสนทนา
10. การเปลี่ยนแปลง (Development): ต้องมีการเปลี่ยนแปลงของตัวละครและเรื่องราวในทุกส่วนของนิยาย เพื่อให้มีความน่าสนใจและความเปลี่ยนแปลง
11. การเริ่มต้นและสิ้นสุด: ให้เริ่มต้นเรื่องราวอย่างน่าสนใจและสิ้นสุดด้วยสิ่งที่น่าตื่นเต้น
12. การดัดแปลงและแก้ไข: ไม่ต้องกังวลถึงความสมบูรณ์ในการเขียนเรื่องราวครั้งแรก ให้ค่อยๆ ดัดแปลงและปรับปรุงเรื่องราวให้ดียิ่งขึ้น
การวางโครงเรื่องนิยายอาจแตกต่างกันไปตามสไตล์และวัตถุประสงค์ของนักเขียน ควรมีความสามารถในการผสานความคิดริเริ่มจากใจใส่เข้ากับเรื่องราวและตัวละครให้เป็นนวัตกรรมและน่าสนุกสนานในที่สุดสำหรับผู้อ่าน ขอให้โชคดีในการเขียนนิยายครับ!
วิธีวางพล็อตนิยาย
เทคนิคการเขียน นิยาย ลง Ebook ให้ขายดี
ขั้นตอนให้ AI เขียนนิยายให้จบเรื่อง
อะไรที่ทำให้ตัวละครของ Disney ประสบความสำเร็จ -Storytelling
วิธีการเขียนพล็อตแบบ 3 องค์ หรือ Three Act Structure
วิธีวางพล็อตนิยาย ด้วยหลัการง Three act sturcture หรือ แบบโครงสร้างสามองก์เป็นกรอบการเล่าเรื่องที่นิยมใช้ในวรรณกรรม ละครเวที และภาพยนตร์ในรูปแบบต่างๆ มันแบ่งการเล่าเรื่องออกเป็นสามส่วนหลักหรือการกระทำ แต่ละส่วนมีจุดประสงค์เฉพาะในการพัฒนาโครงเรื่องและการพัฒนาตัวละคร โครงสร้างนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายเพราะมันช่วยสร้างความสมดุล ความตึงเครียด และความก้าวหน้าของเรื่องราว
นี่คือรายละเอียดของโครงสร้างสามองค์
องค์ที่ 1: การตั้งค่า
- บทนำ: นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่มีการแนะนำตัวละครหลัก ฉาก และสถานการณ์เริ่มต้น หรือเป็นการเปิดเรื่อง ที่ต้องให้ความสำคัญในการดึงดูด ผู้อ่านให้มีความไคร่รู้อยากอ่านเพ่ิมเติม
- Inciting Incident: เหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของตัวเอกที่ทำให้เรื่องราวเคลื่อนไหว นำเสนอความท้าทาย เป้าหมาย หรือปัญหาที่พวกเขาต้องแก้ไข
- Rising Action: ตัวเอกตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่กระตุ้น และโครงเรื่องเริ่มพัฒนาขึ้น อุปสรรค ความขัดแย้ง และเรื่องวุ่นๆ ก็ยิ่งทวีความตึงเครียดมากขึ้น
องก์ที่ 2: การเผชิญหน้า
- ครึ่งแรก: ตัวเอกต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคมากมายในขณะที่พยายามบรรลุเป้าหมาย อาจมีความพ่ายแพ้และช่วงเวลาแห่งความสงสัย
- จุดกึ่งกลาง: จุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องที่ตัวเอกต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญ การเปิดเผย หรือเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงการดำเนินเรื่อง
- ครึ่งหลัง: ตัวเอกดำเนินการตามเหตุการณ์ในช่วงกลาง ความเข้มข้นและเดิมพันทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเรื่องราวดำเนินไปถึงจุดไคลแมกซ์
องค์ที่ 3: การแก้ปัญหา
- ไคลแม็กซ์: ช่วงเวลาที่เข้มข้นและวิกฤตที่สุดในเรื่องที่ความขัดแย้งหลักดำเนินมาถึงจุดสูงสุด ตัวเอกต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเผชิญหน้ากับความท้าทายหลักของพวกเขา
- Falling Action: หลังจากจุดไคลแมกซ์ ความตึงเครียดเริ่มผ่อนคลาย และเรื่องราวเริ่มเข้าสู่ตอนจบอย่างหลวมๆ
- ไขข้อข้องใจ: การแก้ปัญหาและบทสรุปของเรื่องราวที่ผลที่ตามมาจากการกระทำของตัวเอกถูกเปิดเผย ชะตากรรมของตัวละครจะถูกกำหนด และคำถามที่เหลือจะได้รับคำตอบ
โครงสร้าง Three Act ให้กรอบที่ชัดเจนซึ่งช่วยให้นักเขียนรักษาความรู้สึกของทิศทางและความสอดคล้องกันในการเล่าเรื่องของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ามันไม่ใช่สูตรตายตัว และเรื่องราวต่างๆ อาจเล่นกับโครงสร้างเพื่อสร้างเรื่องเล่าที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจ
ตัวอย่าง วิธีวางพล็อตนิยาย
เพื่อให้เข้าใจวิธีการวางพล็อตนิยายตาม Three Act Structure ได้ง่ายขึ้น นี่คือตัวอย่างที่แสดงขั้นตอนและส่วนประกอบของแต่ละแอ็กต์:
นิยาย: "เด็กนักเรียนผจญภัยในป่าสู่การค้นพบความลับของตำนานเมืองเก่า"
Act 1: The Setup
- Introduction: ตัวละครหลักคือนักเรียนมัธยมชั้นมัธยมปีที่ 1 ชื่อ "อิทธิพล" ที่ค้านการเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของเมืองเก่าที่มีในป่าใกล้ๆ เมืองที่เขาอาศัยอยู่
- Inciting Incident: อิทธิพลค้นพบแผนที่ลับที่มีคำอธิบายเกี่ยวกับความลับของเมืองเก่า
- Rising Action: อิทธิพลและเพื่อนๆ ตัดสินใจเดินทางเข้าสู่ป่าเพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเมืองเก่า ต้องเผชิญหน้ากับความผิดหวังและสิ่งประหลาดต่างๆ ในป่า
Act 2: The Confrontation
- First Half: อิทธิพลและเพื่อนๆ พบกับความลับและประสบความสำเร็จบางส่วนในการค้นหา แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่ตามล่าพวกเขาเพื่อคุ้มครองเมืองเก่า
- Midpoint: ในหมู่คนที่ตามล่าอาจมีคนที่เป็นเพื่อนที่อิทธิพลเคยทิ้งไว้ ความลับของเขาอาจถูกเปิดเผย ทำให้อิทธิพลต้องเลือกข้ามความเชื่อที่เคยมีกับเพื่อนเพื่อรวบรวมทีมคนใหม่
- Second Half: ทีมของอิทธิพลทำงานร่วมกันเพื่อเปิดเผยความลับของเมืองเก่า ต้องผ่านการท้าทายและสู้กับความอันตรายเพื่อค้นพบความจริง
Act 3: The Resolution
- Climax: อิทธิพลและทีมของเขาเปิดเผยความลับของเมืองเก่าและได้รับวัตถุโบราณ พวกเขาเก็บมันไว้ นำกลับไปที่เมือง แต่ต้องเผชิญหน้ากับผู้คนที่ตามล่าเขา
- Falling Action: มีความขัดแย้งและการต่อสู้ในช่วงสุดท้าย ความลับถูกเผยแพร่ไปถึงชาวบ้าน ทำให้นักเรียนรู้สึกโดดเด่นและได้รับความสนใจจากเพื่อนและครูในโรงเรียน
- Denouement: อิทธิพลกลับคืนมาสู่ โรงเรียน พร้อมด้วยเพื่อนๆ และครูในโรงเรียนอย่างมีความสุข และแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในป่ากับทุกคน การผจญภัยของเขากลับเป็นที่น่าประทับใจในทุกๆ คน
แนะนำหนังสือ สำหรับ ฝึกเขียน นิยาย
|
- Details
- Hits: 963